เดินทางมาถึงช่วงครึ่งปีหลังของปี 2021 กันแล้ว ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเราจะเห็นกันได้ชัดเลยว่าพฤติกรรมและความสนใจของผู้บริโภคนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ผลเนื่องมาจากโรคระบาด Covid 19 และความตระหนักรู้ถึงเรื่องต่าง ๆ ในสังคมของผู้คนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นเรามาดูกันว่าในปี 2022 ที่จะถึงนี้ เทรนด์ E-Commerce จะเป็นอย่างไรบ้าง
1. ความสะดวกสบายในการจ่ายเงิน
ตั้งแต่ปี 2020 มาจนถึงปัจจุบันเรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า ‘สังคมไร้เงินสด’ ทำให้ทั้งผู้บริโภคเองรวมไปถึงผู้ประกอบการณ์ส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของความสะดวกสบายในการจ่ายเงินที่มากขึ้น ดังนั้นในปีหน้ารวมถึงปีต่อ ๆ ไป การจ่ายเงินแบบ E-wallet ก็จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน
2. การให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัว (Privacy) เป็นสิ่งที่เริ่มถูกให้ความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ IT ถึงแม้ว่าธุรกิจเหล่านี้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้ แต่เราก็ควรทำความเข้าใจและรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคให้ดีที่สุด
3. บริการขนส่งที่รวดเร็ว ทันใจ
ในปัจจุบันเราจะเห็นธุรกิจขนส่งเติบโตกันอย่างมาก และแต่ละเจ้าจะแข่งกันในเรื่องของความรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้ที่ขายของออนไลน์ส่วนใหญ่ก็เริ่มให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
4. จุดยืนของแบรนด์
ผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมรวมไปถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ดังนั้นถ้าอยากจะให้ธุรกิจของเราเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคเราก็ควรแสดงจุดยืนที่ถูกต้องและชัดเจน เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินใจของผู้บริโภคได้ว่าจะสนับสนุนแบรนด์และสินค้าของเราต่อหรือไม่
5. คุณภาพของสินค้า และความไว้วางใจ
คุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ล้วนให้ความสำคัญกันมาโดยตลอด และในปีหน้ารวมไปถึงปีต่อ ๆ ไปสิ่งนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม โดยหากเราให้ความไว้วางใจกับผู้บริโภคด้วยการมีประกันสินค้า หรือขายของแท้ถูกลิขสิทธิ์ก็จะทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคกลับมาอย่างแน่นอน
6. เข้าถึงผู้บริโภคในทุกแพลตฟอร์ม
ในช่วงปีที่ผ่านมารวมไปจนถึงปีหน้าแอพพลิเคชั่นเช่น TikTok กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ดังนั้นเราก็ควรศึกษาและหาวิธีที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคของเราให้ได้มากขึ้น เพื่อความประสบความสำเร็จของการทำธุรกิจ
7. มีความคิดสร้างสรรค์
เดี๋ยวนี้แค่วางแผนการทำโปรโมชั่นให้สินค้าอาจไม่เพียงพอ ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไม่ชอบการขายแบบตรงไปตรงมาจนเกินไป ดังนั้นเราต้องมีการคิดคอนเทนต์หรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แบรนด์และสินค้า
8. เทคโนโลยี AR เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
เทคโนโลยี AR ที่มีความเสมือนจริงจะเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคเพราะจะสามารถดูสินค้าได้แบบไม่ต้องเดินทางไปที่ร้าน และยังสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมไปถึงความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย
9. การพูดคุยผ่านแชท และบริการหลังการขาย
เนื่องจากการซื้อสินค้าทางออนไลน์ผู้บริโภคจะไม่สามารถไปดูสินค้าตัวอย่างของจริงได้ดังนั้นเราควรมีอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยการตอบแชทที่ไวและให้ข้อมูลที่ครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจของลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าและได้รับบริการหลังการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง